
เคเลชี่ อิเฮนาโช่ มาซัดประตูชัยสุดดราม่าในนาทีสุดท้าย ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้สานต่อฤดูกาลใหม่อันสวยหรู ด้วยชัยชนะเหนือคริสตัล พาเลซ 1-0
ซิตี้มาได้ลุ้นก่อนจากการโหม่งของ วิลฟรีด โบนี่ ซึ่งไปติดเซฟ และ ซาเมียร์ นาสรี่ ก็เกือบทำได้เช่นกันในนาทีที่ 6 ขณะที่พาเลซมาได้ลุ้นจาก ยานนิค โบลาซี่ และ ปาเป้ ซูอาเร่ โดยรายหลังเป็นการวอลเล่ย์ระยะ 15 หลาถากเสาขวามือของ โจ ฮาร์ท ไปนิดเดียว
เซร์คิโอ อเกวโร่ เล่นมาได้แค่ 24 นาทีก็มาปะทะกับ สก็อตต์ แดนน์ จนถูกเปลี่ยนตัวออกให้ เควิน เดอ บรอยน์ ลงมาเล่นแทน ซึ่งถือเป็นการประเดิมสนามของนักเตะใหม่รายนี้ด้วย และทีมเรือใบสีฟ้าก็ต้องปรับมาเล่นแผน 4-2-3-1
ครึ่งแรกจบลงไปแบบไร้สกอร์ และเริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ 5 นาที ซิตี้ก็น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เมื่อเดอ บรอยน์จ่ายให้ เฆซุส นาบาส หลุดไปแตะผ่านผู้รักษาประตู อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ได้แล้ว แต่เขาก็ยิงหลุดกรอบทั้งที่เหลือแค่ตาข่ายโล่งๆ
โอกาสของทั้ง 2 ทีมมีไม่มากนัก ซิตี้มาได้ลุ้นจาก ซาเมียร์ นาสรี่ และ ยาย่า ตูเร่ ขณะที่ เจสัน พันเชียน ของเจ้าถิ่นก็ได้โขกให้ฮาร์ทต้องเซฟด้วยเช่นกันในนาทีที่ 70
ขณะที่เกมกำลังจะจบลงแบบไร้สกอร์ อิเฮนาโช่ที่ถูกส่งลงมาแทนโบนี่ก็กลายมาเป็นฮีโร่ของทีมเยือน ดาวรุ่งวัย 18 ปีชาวไนจีเรียมายิงซ้ำจากจังหวะก่อนหน้าของนาสรี่ในนาทีสุดท้าย ซึ่งนั่นก็กลายมาเป็นประตูชัยของทีมเรือใบสีฟ้า พร้อมผงาดนำเป็นจ่าฝูงต่อไปด้วยสถิติชัยชนะ 100% จาก 5 เกมแรก และยังสานต่อสถิติคว้าชัยต่อเนื่องเป็น 11 เกมเข้าไปแล้ว